วิ่งบนทราย ( Run on the sand)

วิ่งบนทราย ( Run on the sand)
ประโยชน์ที่จะส่งผลต่อนักกีฬา
วิ่งบนทรายจะมีแรงกระแทกน้อยกว่าการวิ่งบนพื้นทั่วไปถึง 4 เท่าจะเป็นรองก็แค่การวิ่งในน้ำหรือวารีบำบัดนั้นเอง อีกทั้งยังช่วยลดแรงกระแทกของข้อต่อหัวเข่าและข้อเท้าได้เป็นอย่างมาก
เพิ่มความแข็งแรงและเสริมสร้างการทรงตัวได้เป็นอย่างดีต่อกล้ามเนื้อและข้อต่อของขา เนื่องจาก ด้วยสภาพพื้นที่ไม่เท่ากัน จะส่งผลให้นักกีฬาต้องเกร็งลำตัวส่วนล่างให้มั่นคงอยู่เสมอ จึงส่งผลให้เกิดความแข็งแรงต่อกล้ามเนื้อทุกส่วนเป็นอย่างมาก


สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนเริ่มฝึก
ควรให้นักกีฬามีพื้นฐานความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมาจากการฝึกเวทเทรนนิ่งก่อน เพื่อลดความเมื่อยล้าต่อกล้ามเนื้อและช่วยยืดระยะเวลาและความหนักของการฝึก
ในขณะที่ฝึกควรใช้สมาธิกับการเคลื่อนที่ เนื่องจากด้วยสภาพพื้นทรายที่ไม่เสมอกันอาจทำให้นักฬาเกิดข้อเท้าพลิกแพลงในขณะฝึกจนทำให้เกิดการบาดเจ็บได้


ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฝึก
วันที่สองของการฝึกซ้อมประจำสัปดาห์หรือก่อนถึงวันแข่งขันอย่างน้อย 3 วัน
ระยะเวลาของการฝึกใน 1 ครั้งควรจัดให้ไม่เกิน 30 นาที
ช่วงเวลาฝึก หากต้องการความหนักที่เข้มข้นให้วางไว้ที่ช่วงเช้าหรือแยกออกจากโปรแกรมการฝึกช่วงเย็น หรือสามารถนำไปเป็นช่วงวอร์มอัพก่อนการฝึกซ้อมประจำวันได้หากวันนั้นเน้นไปที่การฝึกสมรรถภาพประจำสัปดาห์
ระยะเวลาการพักหลังจากการฝึก ควรเว้นระยะเวลาให้กล้ามเนื้อได้พักฟื้นฟูเป็นอย่างน้อย 1-2 วัน

ที่มา Thailand Way

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า