วันนี้ไม่อยากซ้อมเลยวะ
‼️เห้ย นั่งลงก่อนเพื่อนเป็นไงเหนื่อยละสิ .. เป็นประโยคหนึ่งที่ในชีวิตวัยเด็กผมมักจะพูดอยู่กับเพื่อนผม ผมเป็นอดีตนักฟุตบอลโรงเรียนจะเข้าใจในความรู้สึกของคำนี้ดีว่าถ้าหากประโยคนี้หลุดออกมาจากปากนั่นหมายถึงความรู้สึกมันเหนื่อยล้าเพียงใด ..😰
ถ้าเด็กหมดไฟ ไม่อยากซ้อม ไม่อยากเล่นฟุตบอลแล้วต้องทำอย่างไร
โค้ชหลายคน คงเคยเจอ เด็กบางคนอยู่ดีๆ ก็หมดไฟ ไม่อยากเล่นไม่อยากซ้อม บางคนรู้สึกเสียดายความสามารถของเขา รู้สึกเสียดายช่วงเวลาที่เขาฝึกซ้อมมา อาจจะ 2 ปี บ้าง 4 ปี บ้าง บางคนซ้อมมาเกือบ 7-8 ปี แต่กลับหมดไฟ
คำถามคือโค้ชจะแก้ไขอย่างไร เมื่อเด็กหมดไฟ เราจะไปตื้อ ขอร้อง อ้อนวอนเขา มันก็คงไม่ใช่่ โค้ชบางคน พูดแบบตรงเกินไป เด็กก็ยิ่งไม่อยากเล่น
มีคำพูดมากมายในแง่ลบที่บั่นทอนจิตใจและยิ่งทำให้เด็กรู้สึกว่าคิดถูก ว่าควรพอแล้ว ไม่อยากเสียสละแล้ว เราเพิ่งอายุไม่เท่าไหร่ ทำไมต้องแบกความกดดันขนาดนี้
เพราะฉะนั้น มันคือหน้าที่โค้ช ที่จะต้องใส่พลังบวกแก่เขา ให้กำลังใจบ้าง สนับสนุนบ้าง หาบางอย่างให้เขาผ่อนคลาย เพราะฉะนั้น มันเลยสำคัญ
โค้ชบางคน ไปใส่แต่แง่ลบ แต่อย่าลืมว่า ฟุตบอลไม่ใช่เครื่องมือทำมาหากินสำหรับเขาอย่างเดียว มันมีอีกหลายอย่าง หน้าที่ของโค้ช ไม่ใช่แค่สร้างนักฟุตบอลอาชีพ แต่ต้องสร้างเขาให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่
ถ้าเด็กอยากเลิกเล่นฟุตบอลจริงๆ เบื่อฟุตบอลจริงๆ ไม่ใช่พยายามดึงเขากลับมาเส้นทาง เพราะมันก็เหมือนกับคนรัก เพราะถ้าไม่รักแล้ว ต่อให้ยื้อให้ตายยังไง เขาก็ไม่กลับมารัก ต่อให้ยื้อได้ อนาคตก็อาจจะเลิกกันอีก
โค้ชเองก็ต้องคอยช่วยเหลือ สอบถามว่าเขาอยากไปไหนต่อ มีแผนอะไรไหม มีอะไรที่สนุกกว่าฟุตบอล และสามารถทำได้ดีกว่า และมีความสุขกับมันมากกว่า
ในแง่มุมนักจิตวิทยาการกีฬา จะรู้สึกเป็นห่วงมากถ้าหากคำนี้เกิดขึ้นกับนักกีฬาบ่อยๆ เพราะอาจจะนำไปสู่การหมดไฟทางการกีฬาได้ ( Burn out )
ถ้าวันหนึ่งเราเหนื่อยล้าหรือรู้สึกมันยากไป เราแค่หยุดพักและนั่งลงพร้อมคิดทบทวนว่าทำไมเราถึงไม่อยากซ้อมเลย ทั้งๆที่แต่ก่อนหน้านั้นเรา “ซ้อมหนัก” มาโดยตลอด
เราทำทุกสิ่งอย่างให้เป๊ะอยู่บนความรู้สึกที่ฝืนจนเกินไปหรือเปล่า ? ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อมที่หนักหน่วงติดกันจนเกินไป ที่ใช้ความรู้สึกว่าต้องซ้อมเยอะเข้าไว้ซ้อมน้อยกลัวว่าวันแข่งจะแข่งไม่ได้ดี ยอมนอนน้อยเพื่อที่จะตื่นมาฝึกซ้อมในตอนเช้า
แต่สิ่งสำคัญอย่าลืมว่า เราอย่าไปบังคับเขาเด็ดขาด เพราะถ้าเขาต้องทำมันเพราะจำใจ หรือ ฝืน มันก็ยากที่คุณภาพจะออกมาดี
พ่อแม่บางคนบังคับลูกให้เป็นหมอ แต่อย่าลืมว่า วิชาชีพ หรือทางเลือกมีมากมาย ทุกคนหวังดี แต่ก็ต้องเคารพสิทธิ์ของเขาด้วย การหมดไฟ เป็นได้ทุกอาชีพ
สิ่งสำคัญของคนที่ให้คำแนะนำคือต้องใส่พลังงานบวก ยิ่งไปกดดันเพิ่มเติม ยิ่งไปบังคับก็มีแต่ยิ่งเละ
จงเดินทางสายกลาง รู้จักหาความบาลานซ์ของชีวิตอะไรที่เราเรียกว่ามันหย่อนเกินไป หรือ ตึงเกินไปสำหรับเรา กีฬาซ้อมหนักเป๊ะทุกสิ่งอย่างมันก็ดี
แต่ถ้ามันทำให้ชีวิตเราเครียดเกินไป ก็ใช่ว่าดีสุดท้ายก็ทำไม่ได้นาน หย่อนไปเราร่างกายก็ไม่เกิดการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น
หน้าที่โค้ชฟุตบอล ไม่ใช่ปั้นแต่นักฟุตบอล แต่เราต้องสร้างเด็กให้มีความเป็นผู้ใหญ่ และเจริญเติบโตมากขึ้นไปด้วย